Friday, December 14, 2007

Liar Game






ช่วงนี้ Series เกาหลีหมดสต๊อก ไม่รู้จะดูเรื่องอะไร เลยหันเหมาสนใจ Series สัญชาติพี่ยุ่นแทน
หลังจากประทับใจมากๆกับ Hana Yori Dango ทั้ง 2 ซีซั่น แล้วสุดปลื้มกับ Nodame Cantabile


ตอนนี้หันมากรี๊ดเรื่องนี้... Liar Game








อ่านเจอข้อมูลของ Liar Game จากกระทู้ห้องการ์ตูนในเหลิมไทย
แล้วรู้สึกว่าพล็อตของเรื่องนี้น่าสนใจมาก เกี่ยวกับเกมส์ชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง...เกมส์แห่งการหลอกลวง








ต่อไปจะเป็นการสปอยล์มหาประลัย SPOILER ALERT from this point !!!!!!



เปิดเรื่องด้วยการแนะนำให้ผู้ชมรู้จักกับน้องนางเอก คันซากิ นาโอะ ที่มีบุคลิกส่วนตัวแปลกสุดโต่ง
ที่ว่าแปลก ไม่ใช่แนวต๊องอัจฉริยะแบบโนดาเมะ หรือ บ้าๆบวมๆแบบอีตาโดเมียวจิ

แต่ นางเอกเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีสุดๆ เชื่อใจคนสุดๆ แล้วก็ซื่อจนเข้าขั้นเซ่อเลยทีเดียว
(มีอย่างที่ไหน โดนคนโทรมาหลอกว่าน้องชายกำลังเดือดร้อนก็เชื่อ...ทั้งๆที่ตัวเองเป็นลูกคนเดียวแท้ๆ)

นางเอกเข้าสู่วังวนของ Liar Game เมื่อวันหนึ่งเธอกลับถึงบ้านแล้วพบพัสดุพร้อมจดหมายเชื้อเชิญให้เข้าร่วมเล่นเกมส์ ซึ่งมีเดิมพันสูงถึง 100 ล้านเยน!





ด่านที่หนึ่ง....Stealing Game

กติกาแสนง่าย (แต่ทำยาก) กำหนดไว้ว่า ผู้เข้าแข่งขันสองคนได้รับเงินเริ่มต้นคนละ 100 ล้านเยน และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขโมยเงินจากฝ่ายตรงข้ามมาให้ได้


ทีนี้ด้วยความซื่อ นาโอะจังของเราก็หลวมตัวเข้าร่วมเกมส์อย่างเง็งๆ จะถอนตัวก็ไม่ได้ ก็เลยได้แต่ร้อนรนไม่รู้จะทำยังไง จนวันถัดมานางเอกได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนที่จะต้องแข่งด้วยเป็นคูณครูสมัยมัธยมของตัวเอง ด้วยความซื่อ(บื้อ) ก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปหาครูคนนั้น พร้อมทั้งหอบเงิน 100 ล้านเยนของตัวเองไปด้วย


คุยกับอีตาครูได้ไม่ถึงสิบนาทีเลยมั๊ง น้องนางเอกก็โดนหลอกเอาเงินไปจนหมด โดยที่คิดว่าครูจะช่วยเอาไปใส่ธนาคารไว้ให้แล้วรอวันสิ้นสุดการแข่งขัน ก็จะเอามาคืนเจ้าของเงินไป เป็นอันสิ้นสุดเกมส์


ที่ไหนได้ ตาครูวางแผนอุ๊บอิ๊บเงินไว้ตั้งแต่แรก พอนางเอกรู้เข้าก็ถึงกับเข่าอ่อน เพราะหากครบกำหนดแล้วไม่มีเงินมาคืน ก็เท่ากับ ตัวเองต้องเป็นหนี้ใครก็ไม่รู้ตั้ง 100 ล้านเยน!!!


นางเอกนั้นมีพ่อที่ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ตัวเองก็ใช้ชีวิตไปวันๆไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน จู่ๆต้องมาเป็นหนี้ถึงร้อยล้าน เล่นเอาลมแทบจับ


กำลังอับจนหนทาง ก็มีคนมากระซิบให้นาโอะจังรู้จักกับจอมต้มตุ๋นอัจฉริยะที่ชื่อ ชินอิจิ อากิยามา หรือ พระเอกของเรื่องนั่นเอง



อากิยามานั้นเพิ่งจะก้าวเท้าออกจากคุก ก็เจอนาโอะมาคุกเข่าขอให้ช่วย ในตอนแรกเขาก็ไม่สนใจและไม่อยากยุ่ง แต่ความซื้อบวกบื้อของนาโอะกลับกระแทกใจเข้าอย่างจัง เพราะทำให้เขาคิดถึงแม่ตัวเอง ที่จำต้องฆ่าตัวตายเพราะโดนคนไม่ดีหลอกให้เป็นหนี้ก้อนโตเช่นกัน



งานนี้พระเอกเลยเดินลงหลุมพรางของ Liar Game เข้าอีกคน



พ่อหนุ่มอากิยามาคนนี้มีดีกรีทางจิตวิทยา แล้วก็ฉลาดเป็นกรด เขาใช้วิธีกดดันและเล่นสงครามประสาทกับอีตาครูจอมโลภของนางเอก จนกระทั่งสามารถชิงเงินทั้งหมดกลับมาได้

ครบสามสิบวันนาโอะจังจึงเป็นฝ่ายชนะและได้ครอบครองเงินรางวัล 50 ล้านเยน ส่วนอีก 50 ล้าน ยกให้อากิยามาเป็นค่าจ้าง


แต่เพราะความเป็นคนดีและขี้สงสารของนาโอะ ทำให้เธอนำเงินส่วนของเธอไปให้ครู เพื่อให้เขานำไปใช้หนี้ พ่อพระเอกเห็นเข้าก็อดรนทนไม่ไหว ยกเงินให้เหมือนกัน

นาโอะโล่งใจและคิดว่าเกมส์คงจบลงเพียงเท่านี้ แต่....นี่มันแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!!!






ด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีใครคาดคิด นั่นคือ ผู้ชนะจะต้องเล่นในด่านต่อไป แต่หากต้องการถอนตัวจากเกมส์แล้ว จะต้องคืนเงินรางวัลครึ่งหนึ่งที่ได้รับ ซึ่งในกรณีของนาโอะนั้น เป็นมูลค่าถึง 50 ล้านเยน





อากิยามาแนะนำให้นาโอะนิ่งเฉยเสีย อย่าไปสนใจเกมส์อีก แต่น้องนาโอะก็โดนล่อหลอกให้เข้าสู่กับดักของเกมส์มหาประลัยนี้อีกจนได้ ร้อนถึงพระเอกที่ตอนนี้ทั้งสงสาร ทั้งเห็นใจ ทั้งสมเพชนางเอก ต้องตามเข้ามาร่วมเล่นเกมส์ด้วย










ด่านที่สอง...Minority Game





เกมส์นี้มีผู้ร่วมแข่งขันถึง 22 คน แถมเงินรางวัลก็เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่า





กติกาของเกมส์ก็เริ่มประหลาดขึ้น โดยให้ผู้แข่งขันออกมาถามคำถาม yes/no แล้วให้ทุกคนลงคะแนนเลือกคำตอบ ฝ่ายที่มีผู้เลือกน้อยกว่า จะเป็นฝ่ายชนะและได้เล่นต่อจนกว่าจะหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว ส่วนฝ่ายที่แพ้ต้องจากไปพร้อมหนี้ก้อนโตเช่นเดิม





ด้วยความฉลาดเป็นกรด แล้วก็ช่างสังเกตของอากิยามา ทำให้เขาสามารถเป็นผู้ชนะได้อีกครั้ง และสามารถช่วยเหลือผู้แข่งขันอีก 14 คน (รวมน้องนาโอะจังด้วย) ให้หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ องค์กรลับผู้เป็นเจ้าของเกมส์ไปได้






แต่ตัวเขาเอง กลับต้องเดินหน้าเล่นเกมส์ต่อ อย่างไม่มีทางเลือก












รอบแก้ตัว...Restruturing Game



ระหว่างที่พระเอกรอเล่นเกมส์รอบที่สามนั้น น้องนาโอะก็โดนหลอก (อีกแล้ว) ให้กลับเข้ามาเล่นเกมส์รอบแก้ตัวอีกครั้ง


ตอนนี้คนดูเริ่มได้กลิ่นแม่งๆแล้วล่ะว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของเกมส์นั้นคงจะต้องการอะไรสักอย่างจากพระเอกแน่ๆ โดยใช้นางเอกเป็นเหยื่อล่อ



พร้อมๆกันนั้น ก็ได้เรียนรู้ถึงความผูกพันที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นระหว่างพระเอกกับนางเอก (คนหนึ่งก็กลับเข้ามาเล่นเกมส์ที่ไม่อยากเล่นเพราะอยากให้อีกคนหลุดพ้นจากเกมส์ด้วย ส่วนอีกคนก็เป็นเดือดเป็นร้อนนักหนาเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกลับเข้ามาสู่เกมส์สยองนี้อีกครั้ง)




เกมส์รอบแก้ตัวนี้ ผู้เข้าแข่งขันคือ ผู้แพ้จากรอบที่แล้วจำนวน 8 คน รวมนาโอะที่ทะเร่อทะร่าากลับเข้ามาเล่นด้วยเป็น 9 คน


นาโอะผู้แสนซื่อโดนทั้งหลอกทั้งล่อจนอยู่ในขั้นวิกฤต ลางแพ้ลอยมาเห็นเด่นชัด และในวินาทีเกือบสุดท้ายนั้นเอง พ่อพระเอกก็ปรากฏตัวในฐานะ ของใช้ส่วนตัวของนาโอะจัง (Naochan's personal belonging 555)




ดูตอนนี้แล้วรู้สึกถึงความขัดแย้งในตัวละครอย่างเห็นได้ชัด



นาโอะจัง ซื่อบื้อเข้าขั้นโง่ แต่ก็มีจิตใจดี ไม่คิดร้ายแม้กระทั่งคนที่ทำร้ายตัว


ในขณะอากิยามาซังนั้น ฉลาด ทันคน ไหวพริบเฉียบคมไม่มีใครเทียบ แต่ก็เจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่รู้จักคำว่าให้อภัย





ในที่สุด นางเอกก็ผ่านด่านนี้ไปได้ พร้อมทั้งได้ปลดปล่อยผู้เข้าแข่งขันอีกคนออกจากเกมส์




ส่วนอีกแปดคนที่เหลือ ยังต้องร่วมชะตากรรมกันต่อไปในด่านที่สาม








ด่านสุดท้าย...Contraband Game






วิธีการเล่นของด่านนี้ค่อนข้างซับซ้อน ตอนที่ดูต้อง rewind กลับไปกลับมาหลายครั้งมาก เกมส์แบ่งผู้แข่งขันออกเป็นสองฝ่ายสองเมือง แต่ละฝ่ายต้องส่งตัวแทนไปขโมยเงินจากธนาคารของเมืองตรงข้ามมาให้ได้มากที่สุด แต่การขโมยก็ไม่ได้ง่ายเพราะอีกฝ่ายจะส่งตัวแทนออกมาตรวจสอบเช่นกัน หากผู้ตรวจสอบทายถูกว่าเงินถูกขโมยออกมาเท่าไร ฝ่ายที่ขโมยก็ต้องกลับเมืองของตัวเองไปด้วยมือเปล่า





หนังเปิดเผยให้คนดูได้รู้ถึงอดีตของพระเอกมากขึ้น แล้วก็ยังมีตัวร้ายที่ร้ายเข้ากระดูกอย่างโยโกย่าเข้ามาร่วมเล่นเกมส์ด้วย





เกมส์นี้คนดูเครียด เพราะมีคนทรยศเต็มไปหมด แถมเกมส์ยังพลิกไปพลิกมา เวลาที่ทีมของพระเอกนางเอกกำลังย่ำแย่ เล่นเอาใจหายใจคว่ำ




แต่สุดท้าย...ธรรมะก็ย่อมชนะอธรรม....


การยึดมั่นในความดีของนางเอกทำให้ทุกคนได้รับบทเรียนอันยิ่งใหญ่ แล้วหันกลับมาร่วมมือเพื่อเอาชนะเกมส์ไปพร้อมๆกัน





เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากเราไม่เห็นแก่ได้ คิดแต่ประโยชน์ของตน และไม่หลอกลวง ไม่ทำร้ายคนอื่น ทุกคนก็อยู่อย่างสงบสุข ไม่มีใครต้องเดือดร้อน


















>>>เก็บตกกับ Liar Game




พอปริศนาทุกอย่างเฉลย ก็ประหลาดใจเล็กน้อย เพราะตอนแรกนั้นคิดว่า พระเอก คือเป้าหมายสำคัญของเกมส์นี้ แต่เอาเข้าจริง กลายเป็นนางเอกต่างหากที่ถูกทดสอบว่า จะรักษาความดี ความใสซื่อบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ได้ไหม หากต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อันโหดร้ายและบีบคั้น


แล้วน้องนาโอะจังก็สอบผ่านฉลุย ... แต่แอบสงสัยนะว่า ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่อิงนิยาย คนอย่างนางเอกเรื่องนี้จะมีชีวิตรอดไปได้จริงหรือ ถึงในละครเองก็เถอะ ถ้าไม่มีพระเอกมาคอยช่วยเหลือ ก็คงจอดไม่ต้องแจวตั้งแต่เริ่มเกมส์แรกแล้ว

จริงๆแล้วชอบภาพวาดสุดท้ายของ Mr.Hasegawa เพราะมันบอกเราว่า ถึงแม้มนุษย์มีการต่อสู้ แก่งแย่ง เอารัดเอาเปรียบกันมากเพียงใด แต่หากมีความหวัง แม้เพียงน้อยนิด (นางฟ้าออร่ากระจายแค่คนเดียว) ก็คงจะทำให้โลกนี้ไม่ดำมืดหรือว่าโหดร้ายจนเกินไป







>>> นักแสดง






เรื่องนี้ได้ Matsuda Shota หรือ พ่อหนุ่มคาสโนว่านามโซจิโร่ แห่ง F4 จาก Hana Yori Dango มารับบท อากิยามา ชินอิจิ ผู้แสนเฉลียวฉลาด





แว่บแรกที่เห็นโชตะในโปสเตอร์หนังแล้วแทบกรี๊ด เพราะ วิกที่พ่อคุณใส่นั้นเข้าขั้นโคม่า น่าเกลียดมากๆๆๆๆๆ ใครหนอสรรหามาให้ใส่ น่าจับมาตีมือแล้วไล่ไปศึกษาวิชาว่าด้วยวิกเสียจริงๆ ส่วนในละครทรงผมดีขึ้นหน่อย แต่ก็ออกแนวเหนียวๆเหมือนผมไม่ได้สระมาเป็นเดือน (ดูแล้วคิดถึงสเนปเลย)



แต่สิ่งที่ทำให้หันมาหลงรักโชตะนั้น คือการแสดงขั้นเทพของเขา


(พอแอบสืบประวัติดูก็ไม่แปลกใจแล้ว เพราะครอบครัวมัตสึดะเล่นเป็นนักแสดงกันทั้งบ้าน เรียกว่าการแสดงคงอยู่ในสายเลือดของโชตะไปแล้ว)




ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่หน้านิ่งๆกับแววตารู้ทันกับรอยยิ้มมุมปาก หรือ เสียงหัวเราะเวลาที่เห็นว่าคู่ต่อสู้ทำอะไรน่าสมเพชเสียเหลือเกิน ก็ทำให้ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


ยิ่งเวลาที่มองนางเอกทำตัวซื่อบื้อนะ โอย คนดูอยากละลาย




ที่สำคัญ พอย้อนกลับไปดู HYD แล้วทำให้รู้สึกว่า โชตะ เท่ห์และหล่อขึ้นจมเลย ^__^






ส่วนคนที่รับบท นาโอะจัง นางเอกแสนดีที่สุดซื่อนั้น คือ Toda Erika หรือ น้องมิสะ มิสะ จาก Death Note


รายนี้ไม่ปลื้มเป็นทุนเดิมตั้งแต่คราวที่เล่นเดธโน๊ต เจอหน้าอีกครั้งตอนเล่นเป็นอูมิใน HYD ก็ยิ่งเหม็นขี้หน้า แต่พอได้มาเห็นในเรื่องนี้ ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะ เปลี่ยนใจมาปลื้มมมมมมมมากกกกกกกกกกกก

เอริกะ เล่นเป็นสาวน้อยผู้แสนซื่อและมองโลกในแง่ดีได้สมจริงมากกกกก เรียกว่าทำเอาทั้งสงสาร ทั้งเห็นใจ ทั้งเอาใจช่วย ทั้งอยากตี ทั้งอยากเตะ ฯลฯ อีกมากมาย

เหมือนๆกับว่า นาโอะจังเป็นตัวแทนคนดูด้วย เพราะตามความคิดอันชาญฉลาดของคนอื่นในเรื่องไม่ค่อยทัน (แต่บางครั้งที่นาโอะโดนหลอกซ้ำๆแบบไม่น่าโดน คนดูอยากเข้าไปหยิกให้เนื้อเขียวแล้วบอกว่า เมื่อไหร่จะฉลาดเสียที ห๊ะ???)

ส่วนคนอื่นๆในเรื่องก็เล่นได้ดีไม่แพ้กัน อาจจะออกแนวโอเวอร์แอคติ้งตามสไตล์พี่ยุ่นไปบ้าง แต่ก็ทำให้คนดูคล้อยตามในบทบาทที่พวกเขาได้รับ โดยเฉพาะเหล่าตัวร้ายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น นายหัวเห็ดจอมทรยศ-ฟูกูนากะ หรือ เจ้าเห็ดน้อย-โอโน ที่เผลอไผลหลงไปกับอำนาจที่ได้รับ




ที่ต้องยกนิ้วให้เพราะเล่นแล้วคนดูทั้งโกรธ ทั้งเกลียดแทนนางเอก (เพราะคุณน้องนางเอกเค้าไม่เคยโกรธใครเลย...ให้ตาย) อยากจะโดดเข้าจอไปเอานิ้วจิ้มตาเขียวๆ ก็คือ อีตาโยโกยา





โดยเฉพาะฉากที่เค้าบอกนาโอะจังว่า "โลกนี้น่ะ มีคนที่เลวเข้ากระดูกอย่างน้อยก็คนนึง...อยู่ตรงหน้าเธอนี่ไง" ขอคารวะในความเลวเลย

.
.




.






ต้องยอมรับว่าคนเขียนบทละครเรื่องนี้ฉลาดมาก มีลูกล่อลูกชน เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวให้ตื่นเต้นตลอด แถมการเดินเรื่องก็เป็นไปอย่างรวดเร็วไม่มีอืดไม่มียืดไม่มีย้วยเลยสักนิดเดียว

ดูแล้วอยากให้คนเขียนบทบ้านเรามาศึกษาไว้เป็นตัวอย่างจริงๆ ว่าบทละครดีดีควรจะเป็นยังไง

จากที่เคยรู้สึกว่า ละครญี่ปุ่นทำให้คนญี่ปุ่นดูรู้เรื่องเท่านั้น ตอนนี้เปลี่ยนใจและเริ่มจะปลื้มละครญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว นี่ถ้าเพิ่มความหวานแหววเข้ามาอีกสักนิดจะชนะละครเกาหลีเลยด้วยซ้ำ (เพราะละครเกาหลีหลังๆเริ่มยืดยาดไม่น้อย)

แต่ขนาดไม่มีเรื่องรักหวานแหวว เรากลับรู้สึกได้ถึงความรู้สึกดีดีที่พระเอกและนางเอกมีให้กัน ไม่ต้องกอดกัน ไม่ต้องจับมือ แค่ได้เห็นเค้ายิ้มให้กัน เราก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้แล้ว

สรุป...ให้ 5 ดาวเลย สำหรับ Liar Game

No comments: