Monday, May 12, 2008

::Fated to be HERE::

.
.
.
我的快乐会回来的
.
.
.
.
I really hope so...
.
.
.
My Happiness will finally come back
.
.
To me
.
.
.
环岛的火车载着我第几天了
.
.
..

Thursday, May 8, 2008

:: Getting Better ::

.
ทุกอย่างกำลังเริ่มจะเข้ารูปเข้ารอย ... หวังว่านะ
ตอนนี้ก็พบกับซาร่าเป็นประจำทุกอาทิตย์ และต้องช่วยกันคิดถึงวิธีที่จะทำให้สบายใจ ไม่เครียดและมีความสุข
.
.
หลายคนจากไป แต่คนที่ยังเหลือก็ต้องอยู่ต่อให้ได้
การสร้างเพื่อนใหม่คงจะเป็นวิธีที่เป็นไปได้ที่สุดในตอนนี้

หลิงจื่อจะแนะนำให้รู้จักกับเอมิลี่
วันนัดพบวันแรก...พฤหัสหน้า

เท่าที่ฟัง ดูเป็นคนใจดี น่าคบหา และฉลาดมากๆ เข้าใจโลก เข้าใจคนน่าดู
หวังว่าเราจะเข้ากันได้นะคะ เอมิลี่


looking forward to meeting you
.
.
.

Wednesday, April 23, 2008

...The way I feeL...

..
..
..

You include me, when you need my help

You exclude me, when you don't

..
..
So, What am I?????


..
..

Monday, April 21, 2008

Alone in Pittsburgh

..
..
..
เหงาจัง


...อีกไม่กี่วัน เพื่อนสองคนก็จะกลับบ้าน
เหลือแค่เราและเพื่อนอีกหนึ่งที่กำลังใกล้จะได้กลับบ้านเช่นกัน



เหงาจัง
..
..
..

Sunday, April 20, 2008

...A Whole New Experience....

..
..

April 12-16, 2008


@Western Psychiatric Institute and Clinic@


-Hospitalization
-Meeting new people & Make friends in such a short period of time
-Quit being shy (a bit) & Try to stand out (a bit)
-Learn how to stay positive effectively
-Realize how CARING people could be



Special Thanks to:
-Paula... the BEST research mentor in the world
-Eleanor... I always thought she couldn't recognize me
-Everyone @ COPE... You guys are so sweet!!!!
-Friends... though you cannot help, you still care
..
..

Sunday, March 23, 2008

!!!Confusing!!!

.

อาจมีบางที ที่เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เพียงแต่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวมันไม่ได้ดั่งใจไปหมด


ไม่ว่าจะเป็นผู้คน เรื่องราว ความเป็นไป หน้าที่การงาน


เห็นอะไรก็ขัดหูขัดตา ไม่พอใจ ไม่ถูกใจ
ไม่รู้ว่าทำไม และไม่รู้ด้วยว่าจะทำยังไงถึงจะขจัดมันออกไปได้

ได้แต่เซง เซ่ง เซ้ง เซ๊ง เซ็ง....

ที่รักบอกว่าเป็นอาการ depress
เฮ้ออออออออออ

Thursday, March 13, 2008

Hwighting!! Fighting!!

.
.

มันเป็นอะไรกันไปหมดหนอ หันไปทางไหนก็มีแต่คนทะเลาะกัน

พันทิป...ก็ทะเลาะ
บ๊อกมุง...ก็ทะเลาะ
(งานนี้หนักหน่อย บ๊อกมุงเล่นเปิดศึกสองด้านเลย เรื่องน้ำอบ/เรื่องห้องเพชรฯ)
บอร์ดนิยาย...ก็ยังทะเลาะ




พูดถึงบ๊อกมุง...ขามุงเซ็ง
คนไม่เกรียน แต่ทะเลาะกันแบบเกรียนๆนี่น่าเบื่อนะ
ไม่ใช่อะไร ไอ้ภาษายอกย้อนที่เขาใช้กันน่ะ ชาวมุงตามไม่ทัน
อ่านจบแล้วต้องวกขึ้นไปอ่านใหม่ว่า ตกลง...เขาว่าอะไร (ฟระ)
โอย ทั้งหลักการ ข้อปฏิบัติ ข้อกำหนดอะไรก็ไม่รู้ยาวเหยียด


ปกติเวลามุง ก็มุงๆเมาท์ๆกันตามใจชอบได้นี่ (หว่า)
เลยบ่ค่อยเก็ทอ่ะ ว่าพี่ท่านต้องการอาไร๊ กะบ๊อกเจือกเรื่องชาวบ้าน (วะ)


เห็นใจเจ้าของและกลุ่มสมาชิกกิติมศักดิ์บ๊อกมุงเป็นอย่างยิ่ง
คราวนี้อาจจะเข็ดจนเลิกจุ้น เอ๊ย เลิกมุงเรื่องชาวบ้านมั๊ยเนี่ย


แต่ดูจากทีท่าและประวัติที่ผ่านมาแล้ว...คงไม่หรอก
โน๊ะ
55555

Thursday, February 21, 2008

I CANNOT BELIEVE IT !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

โหมดขอวีน.....



เชื่อเค้าเลยเฟร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย


คนอะไรเนี่ย หน้าโบ๊ะด้วยเครื่องสำอางค์ยี่ห้อไหน ทำไมมันถึงได้เสริมใยเหล็กขนาดนี้
คิดว่าชั้นอยู่ทางนี้จะไม่มีวันเปิดไปเห็นเธออย่างนั้นหรอยะ????????????????


โถ หิ้วกระเป๋าหลุยส์วางมาดคุณหนู ตามดาราไปออกรายการทีวี
ท่าทางจะความจำสั้นจัดๆนะ คงลืมไปแล้วว่าตัวเองมีหนี้สินท่วมหัวท่วมหูขนาดไหน
นี่ได้ข่าว ถึงขนาดเพื่อนฝูงตัดขาดกันไปหลายคน ค่าที่ไปยืมเงินเค้าแล้วก็ทำเนียนไม่คืนซะงั้น

คนเค้าทวงแล้วทวงอีก ก็มาทำท่าน่าสงสารเรียกร้องความเห็นใจ
บ้านไฟไหม้อย่างนู้น พ่อป่วยอย่างนี้ ตัวเองก็สุดแสนจะรันทด ทั้งโจรขึ้นบ้านทั้งโดนมอไซต์เฉี่ยว
แต่ที่คนเค้าเห็นน่ะ คือ เธอซื้อมือถือใหม่ราคาหลายหมื่นและลอยหน้าไปดูละครเวทีอย่างมีความสุข

ไม่ละอายแก่ใจซักนิดเลย

หนอย พอเจ้าหนี้เค้าใจดีเลิกทวงเข้า แทนที่จะสำนึก รีบก้มหน้าก้มตาทำงานเก็บเงินแล้วเอาไปใช้ที่ยืมๆเค้ามาซะให้หมด


นี่ไม่มีอ่ะ ทำลอยหน้าลอยตา ลอยตัว จมไม่ลงเหมือนเดิม
เฮอะ...ไปเป็นแฟนคลับดารา ไปงานมีตติ้งลั๊นลา ร้องคาราโอเกะ ตามไปดูคอนเสริต พากันไปทำบุญ


ถามหน่อย เอาเงินที่ "ปล้น" จากพวกชั้นไปทำบุญเนี่ย หล่อนคิดว่าจะได้บุญซักแค่ไหนยะ คงมากโขอยู่หรอกเนอะ??????


กับดาราคนที่ถึงขนาด "ร๊ากกกกกกกกกกกกกกก" กันมากนี่ เค้าคงจะมีบุญคุณกับเธอมากเลยสินะ

แล้วคนที่เคยเป็นเพื่อน เคยช่วยเหลือเธอไว้ยามยากลำบากน่ะ เธอเอาไปไว้ไหนยะ
อย่าว่าแต่จะมาเห็นความดี มาซาบซึ้งใจแบบที่เธอรู้สึกกับดาราคนนั้นเลยนะ
แค่ความเป็นเพื่อน เธอก็ยังไม่ไยดีมันเล้ย คบกันมากี่สิบปี มันไม่เคยมีความหมายกับเธอหรอก
ตัดได้ง่ายๆ ยิ่งกว่าตัดเศษด้ายออกจากกางเกงในซะอีก


นี่อะไร๊.. แค่ดาราเค้าจำชื่อเธอได้ (ก็เธอเป็นแฟนคลับเค้านี่หว่า ตามไปหลอกหลอนเค้าทุกงานอย่างนั้น ถึงไม่อยากจำเค้าก็ต้องจำวะ) เธอก็ให้สัมภาษณ์ว่าเค้าดีมากมายก่ายกอง แต่ขอโทษนะ.... ฟังแล้วมันจะคลื่นไส้ว่ะ


เออ...ชั้นน่ะมันนางยักษ์นางมาร !!!!ให้ยืมเงินแล้วก็ต้องมาทวงคืนด้วย!!!!..... เชอะ


จริงๆชั้นก็อยากจะอโหสิให้เธอนะ เกิดชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมาผจญเวรกรรมกันอีก แต่เห็นเธอลอยหน้าออกทีวีแล้ว ให้ตายเหอะ อยากจะโดดเข้าจอไปกระชากหน้ากากเธอออกซะจริงๆ
แต่พอดีชั้นไม่ใช่ทั้งนางร้ายแล้วก็นางเอกในละคร และชั้นก็มีการศึกษาดีเพียงพอ เลยมีแต่ความสมเพชให้เธอ และปลอบใจตัวเองว่า อีกไม่นานคนเค้าคงจะรู้เช่นเห็นชาติเธอเองนั่นแหละ


ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ แต่ชอคโกแลตห่อกระดาษทองแล้วมาหลอกคนอื่นว่าเป็นทองแท่งน่ะนะ แค่อากาศร้อนหน่อยมันก็ละลายเยิ้มออกมาประจานตัวเองแล้วย่ะ...ชั้นจะบอกให้




สุดท้ายอยากจะบอกว่า ถ้าเงินเหลือเยอะนัก ช่วยแบ่งๆมาใช้คืนชั้นบ้างก็ได้นะ
เพราะชั้นน่ะ เป็นแค่นักเรียนทุนจนๆ งานก็ยังไม่ได้ทำ ไม่ได้ร่ำได้รวยและมีเวลาว่างมากอย่างเธอหรอก

Tuesday, February 12, 2008

..แอร์กี่.. เมื่อชื่อนี้กลับมาร้อนอีกครั้ง

..หมายเหตุ..
บทความนี้เต็มไปด้วยอคติส่วนตัวของผู้เขียน โปรดใช้วิจารณญาณ


.
.
นาทีนี้คงมีคนไม่น้อยที่รู้จักชื่อและเรื่องราวของผู้หญิงที่ชื่อ...แอร์กี่....

จากดีกรีคำค้นหาอันดับหนึ่งในพันทิปดอทคอมติดต่อกันยาวนานหลายเดือน
เรื่องราวที่เธอเขียนและต่อมาได้รับการตีพิมพ์รวมเล่ม จนถึงวันนี้มาโลดแล่นอยู่บนจอแก้วเสียแล้ว

เมื่อแรกสุดที่แอร์กี่เขียนเรื่องราว ชีวิตรันทด...เรื่องจริงผ่านคอม เป็นตอนๆลงในกระทู้ที่สวนลุมนั้น เคยได้แว่บๆเข้าไปอ่านบ้าง
สุดท้ายก็ทนกับความลายตาไม่ไหว เนื่องจากหลายตอนจัด ไม่จบเสียที เป็นเหตุให้เลิกราจากการอ่านไปกลางคัน
จนได้ข่าวว่าเรื่องจบแล้ว มีผู้รวบรวมเฉพาะเนื้อหานิยาย และตัดความคิดเห็นของคนอื่นๆออกไป จึงได้กลับไปอ่านจนจบ

เมื่ออ่านครบก็ได้แต่สะท้อนใจ กับเรื่องราวชีวิตของบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการยกย่องอย่างสวยหรูจากสังคมทั่วไป (ก็เรียกว่า "นางฟ้า" นี่ ถือเป็นการยกย่องแล้วล่ะ)
แต่ในความเป็นจริง กลับเป็นไปด้วยเรื่องคาวโลกีย์ ประเภทผัวเขาเมียใครข้าไม่สน
ยิ่งกว่านิยายประโลมโลก ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า แต่ผู้เขียนเขานั่งยัน นอนยันว่าเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายนะจ๊ะ

บอกกันตรงๆแบบไม่สร้างภาพ...ในตอนแรกนั้นหมั่นไส้นางเอกพอสมควร
เพราะจากข้อเขียนของเขานั้น ผู้คนรอบข้างเขาช่างเลวบริสุทธิ์ ส่วนตัวเขานะ ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งดี
(ส่วนที่มาออกตัวว่าตัวไม่ใช่คนดีนั้น ก็เป็นเพียงข้อแก้ตัวกับสิ่งที่เห็นชัดๆว่าตัวทำผิดนั่นแหละ)

ยังคิดอยู่ว่า กล้าจังเนอะ มาเล่าเรื่องแบบนี้ให้ชาวบ้านร้านตลาดได้รู้
แต่ก็นะ เขียนในเน็ตแถมยังใช้บัตรผ่านมาเขียน คงไม่รู้มั๊งว่าใครเป็นใคร
(พอมารู้ภายหลังว่ามีการไปพบไปเจอแฟนคลับแบบตัวเป็นๆ ก็ให้ตกใจมิใช่น้อย...โลกมันแคบนะป้า ไม่กลัวเจอโจทก์หรือไง)

แต่ตอนนั้นก็ทำตัวเป็นแค่ขามุงที่ดี เขาเขียนให้อ่านก็อ่านไปเถอะ
ได้อะไรเป็นข้อคิดก็เก็บมาไว้กับตัว ถือว่ายุ่งเรื่องของชาวบ้านเอง ขัดใจยังไงก็ไม่มีสิทธิ์พูดมาก
แต่แอบเง็งว่า ป้าแค้นแรงจัง เรื่องผ่านไปยี่สิบกว่าปี เป็นนางเอกคนอื่นคงเข้าวัดทำบุญแล้วก็ลืมเรื่องแย่ๆไปหมดแล้ว
...ดูอย่างในเรื่องขิงก็รา ข่าก็แรงสิ...รายนั้นโกนหัวบวชเลย ถึงจะเป็นแค่พี่สาวนางเอกก็เถอะ

ปีถัดมา
แอร์กี่กลับมาอีกครั้ง พร้อมเรื่องแฉครั้งใหม่ที่หนีไม่พ้นอะไรแบบเดิมๆ
แต่งานนี้ไม่เหมือนคราวก่อน ที่ผู้ถูกแฉได้แต่เก็บตัวเงียบด้วยความคิดที่ว่านิ่งซะเดี๋ยวเรื่องคงเงียบเอง

เพราะคู่กรณีของเธอเป็นคนที่เป็นที่รู้จักในวงสังคมที่กว้างขึ้นนั่นเอง
เลยมีการ เธอแฉมา...ฉันแฉกลับ ให้ได้เจ็บปวดรวดร้าวกันทั้งสองฝ่าย

ฝ่ายหนึ่งก็กลายเป็น...ยายป้าตัณหากลับ หลอกล่อหนุ่มๆด้วยเงินทองข้าวของ
อีกฝ่ายก็...ชายหนุ่มสิ้นคิด เกาะผู้หญิงกิน

มาถึงตอนนี้ทำให้ย้อนกลับไปคิดถึงนิยายเรื่องก่อน...ชีวิตรันทดฯ....และก็เริ่มรู้สึกว่า เอ หรือจะเป็นเช่นเดียวกัน
เหรียญมันยังมีสองด้าน เรื่องจริงเรื่องหนึ่งก็มีสองด้านได้เช่นเดียวกัน

หลังจากนั้นก็ได้ข่าวว่านิยายเรื่องนี้ได้ถูกมาทำเป็นละคร โดย ค่ายใหญ่ Exact
(พูดถึงค่ายนี้แล้วก็หงุดหงิดเล็กน้อย...หลังๆงานละครไม่เหมือนแต่ก่อนเลย
คิดถึงเคหาสน์ดาว.......)
ก็ถอนใจเฮือกกกกกก....อีกแล้ว ละครตบตีแย่งผู้ชาย อีกแล้ว
แต่ก็นะ ฟังแล้วก็ผ่านเลยไป ยังไงก็คงไม่เปิดไปดูละครเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ก็มีข่าวคาว ข่าวคราวของนิยายเรื่องนี้มาเข้าหูเข้าตาเป็นระยะ
มาถึงข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วโลก (ได้ข่าวว่าถึงขนาดออก CNN....งามหน้าจริงประเทศไทย)

และจากข่าวนี้เอง ที่ทำให้ชื่อของแอร์กี่และเรื่องราวของเธอกลับมาสู่ความสนใจอีกครั้ง
มีการขุดคุ้ยเรื่องราว รูปถ่าย ของบุคคลที่เกี่ยวข้องในนิยายทั้งสองเรื่องกลับมาเมาท์กันอย่างสนุกปาก
บางเวบบอร์ดมีการแฉกลับในเรื่องที่ไม่มีใครเคยรู้ เคยพูดมาก่อน ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะรู้ได้

อย่างที่บอก ขามุงที่ดี ควรมุงตั้นแต่ต้นจนจบ
ตอนนี้เรื่องราวยังไม่สรุป (แม้ขามุงจะเลือกข้างได้แล้วก็เถอะ) แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนแล้ว นั่นคือ

...ดาบสองคมนั้นคืนสนอง.....และกรรมออนไลน์นั้นมีจริง
.
.
.
.

Update 2/17/08

โอ..ล่าสุดมีการส่งอีเมล์จากสำนักความทนายความห้ามมิให้มีการกล่าวถึงแอร์กี่ในทางเสียหาย ไม่อย่างนั้นจะโดนฟ้องนะตัวเอง
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ คนแบบนี้ก็มีด้วย ทีตัวเองแต่งเรื่องแฉชาวบ้านเป็นเรื่องเป็นราว พิมพ์รวมเล่มและไปเจอแฟนขับก็ทำมาแล้ว
ยัง "กล้า" มาขู่ฟ้องชาวบ้านเค้าอีกเนอะ ป้าเอ๋ยยยยยยยยยยยยยย

ป้าต้องการไรกันแน่เนี่ย แต่งเรื่องมาแล้วต้องมีแต่คนสงสารและเห็นใจ ห้ามคิดต่าง ห้ามสงสัย ห้ามไม่เห็นด้วยใช่มั๊ย
อูยยยยยยยย....ป้า ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

โอ้ววววว อะไรกันนี่

อึ้ง....งานนี้มีอึ้ง

ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าคนที่เห็นเป็นผู้ดี๊ผู้ดี เป็นนักวิชาการ มีความคิดมีเหตุผลอยู่ในบอร์ดหนึ่ง
จะกลับกลายร่างเป็น....เอ่อ เก้งปากจัด....ในอีกบอร์ดไปเสียได้

ก็เข้าใจว่าธรรมชาติของแต่ละบอร์ดนั้นมันต่างกันราวฟ้ากะเหว
แต่สังคมอินเตอเน็ตมันก็มิได้กว้างขวางอะไรเท่าไหร่หรอกนะ
และการที่เขาใช้ชื่อเดียวกันเล่นในสองบุคลิกที่ต่างกันสุดขั้วแบบนี้
...พูดอะไรไม่ออกง่ะ....

แล้วต่อไปหากต้องไปอ่านความเห็นเขาในคราบผู้ดี จะทำใจเชื่อได้ไหมล่ะนี่
เงอะ

คุณหมอ นะคุณหมอ..... มังกรซ่อนลายจริงๆ

~~~~~~~~

Saturday, February 2, 2008

LOST...and never FOUND

Ahhhhhhhhhhhhhhhhhh
How many times in life that you can lose a wallet????????


This is my 4th time.



The thing I want back most... 08/08 Student ID and PNC card


But it's gone FOREVER

Hurrrrrrrrrrrrr

Wednesday, January 30, 2008

Donizetti's The Elixir of LOVE

"ความรักวุ่นๆของหนุ่มรถไอศกรีมกับสาวงามประจำหมู่บ้าน"

.

.

.

.

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อหนุ่มน้อยที่แสนจะขี้อายและไม่เซลฟ์เอาเสียเลย ต้องมาลงสนามแข่งกับนายทหารหนุ่มจอมโว เพื่อแย่งชิงหัวใจของหญิงสาวที่ทั้งสวย ทั้งเริด ทั้งเชิด แถมยังหยิ่งสุดๆ

.

มองเผินๆแล้ว พ่อหนุ่ม Nemorino เรียกได้ว่าเป็นม้านอกสายตาของใครต่อใคร ด้วยบุคลิกที่แสนซื่อ เฉิ่มเบอะ และขี้อาย ทุกอย่างในตัวเขาบ่งบอกถึงความเป็น 'Nobody' สุดๆ

.

ทุกๆวัน เขาจะเฝ้าแอบมอง Adina สาวสวยเจ้าของฟาร์มอยู่ไกลๆจากรถขายไอศกรีมของเขา ความรักที่เขามีต่อเธอ แม้จะเปี่ยมล้นแต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะพูดจะบอกให้เธอรับรู้ ดอกฟ้านั้นอยู่ไกลเกินที่มือของเขาจะเอื้อมไปถึง

.

แต่แล้ว โดยที่ Nemorino ไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้น ชายหนุ่มที่เหนือ Nemorino ในทุกๆทาง ชายชาติทหารที่สาวๆทุกคนหมายปอง แต่เพียงหนึ่งเดียวที่ Srg.Belcore ต้องการกลับเป็น Adina ยอดดวงใจของ Nemorino นี่เอง

.

เมื่อมีศัตรูหัวใจที่มาแรงแซงทางโค้งขนาดนี้ Nemorino จึงตัดสินใจบอกความนัยให้ Adina รับรู้ เผื่อสาวเจ้าจะเห็นใจ และหันมารักตนบ้าง

.

ที่ไหนได้ นอกจาก Adina จะไม่รับรักแล้ว เจ้าหล่อนยังไล่ให้ Nemorino ไปหารักเอาดาบหน้าเสียอีก !

.

ความพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อจอมต้มตุ๋นอย่าง Dr. Dulcamara ผ่านเข้ามายังหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้พอดี และได้หลอกขาย 'Isolde's Love Potion' ให้ Nemorino ผู้ซึ่งเชื่อสนิทใจว่าจะสามารถทำให้ Adina เปลี่ยนใจมารักได้หลังจากที่เขาดื่มมันเข้าไปเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

.

ยาเสน่ห์ที่ ดร. หัวโล้น ขายให้ Nemorino นั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงไวน์เท่านั้น แต่มันก็ทำให้ Nemorino อยู่ในอาการกึ่มพอที่จะเชิดใส่ Adina บ้าง ด้วยมั่นใจว่าหลังจากนี้ไม่นาน เธอจะต้องหันมาตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

.

เหตุการณ์นี้ทำให้ Adina ผู้ที่เคยแต่เชิดใส่คนอื่นถึงกับปรี๊ดแตก หล่อนตกปากรับหมั้น Belcore ทันที และสัญญาว่าจะแต่งงานกับเขาในอีก 6 วันข้างหน้า

.

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ Belcore ได้รับคำสั่งเร่งด่วนให้ยกพลออกจากหมู่บ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น Adina จึงยอมแต่งงานกับเขาทันที ท่ามกลางความตกตะลึงของ Nemorino ที่ทุกอย่างดูท่าจะผิดแผนไปเสียแล้ว

.

พ่อหนุ่มรถไอติมก็เลยถึงกับนั่งไม่ติด ดอดเข้าหา Dr. จอมลวงโลกเพื่อขอซื้อตัวยาอีกซักขนาน แต่เขาไม่เหลือเงินซักเพนนี อีตาดอกเตอร์ก็เค็มไม่หยอก ไม่ยอมผ่อนผันใดๆ เขาถือคติที่ว่า "การได้ครอบครอง Elixir ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือจับฉลากได้มา" (ขอยืมคำคุณหมาเนยสักนิด)

.

ในระหว่างนั้นเอง Belcore ซึ่งมอง Nemorino ไม่ต่างจากศัตรูหัวใจตัวเอ้ (สัญชาตญาณผู้ชายกระมัง) ก็สบโอกาส เข้ามาเสนอเงินให้เพื่อแลกกับการที่ Nemorino จะต้องเข้าร่วมในกองทัพภายใต้บังคับบัญชาของเขา

.

Nemorino ตอบตกลง เพราะหวังหมดใจว่าตัวยาที่เขาได้รับเพิ่มเข้าไปนั้น จะทำให้ Adina หันมารักได้ ก่อนที่เขาจะต้องเข้าประจำการ

.

ในเวลานั้นเองมีการโจษจันไปทั่วหมู่บ้านว่า ลุงของ Nemorino ถึงแก่กรรมพร้อมทิ้งทรัพย์สมบัติเอาไว้ให้เขามากมาย!

.

ด้วยข่าวลือนี้เอง ทำให้ Nemorino ผู้ซึ่งยังไม่อิโหน่อิเหน่ใดๆ กลายสภาพเป็นหนุ่มเนื้อหอมในชั่วพริบตา สาวๆในหมู่บ้านต่างพากันมาห้อมล้อมเขาโดยที่เจ้าตัวก็ยังเง็งๆ และเข้าใจไปว่ายาเสน่ห์ที่ดื่มเข้าไปนั้นเริ่มสัมฤทธิ์ผล

.

ทางด้านสาว Adina ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน ถึงความป๊อบสุดๆแบบพลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือของ Nemorino

.

ประหลาดใจยิ่งกว่า คือ เธอเริ่มยอมรับกับตัวเองว่า เธอ "หึง" พ่อหนุ่มแสนซื่อบื้อคนนี้!

.

ต่อมา..ข่าวเรื่อง Nemorino ยอมขายตัว เอ๊ย ขายอิสรภาพ แลกกับเงินที่จะนำมาซื้อยาจาก Dr. Dulcamara เพื่อพิชิตใจ Adina ก็ลอยมาเข้าหู ทำให้เธอซาบซึ้งและประจักษ์แจ้งแก่ใจว่า เธอรักเขามากเพียงใด

.

Adina จัดการขอซื้อสัญญาเข้าเป็นทหารคืนจาก Belcore (ผู้ซึ่งไม่เต็มใจนัก แต่ศักด์ศรีมันค้ำคอ) และยอมรับกับ Nemorino ว่า เธอรักเขา

.

ทุกคนลงเอยอย่างมีความสุข Adina กับ Nemorino (ที่ตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีจากมรดกลุงไปแล้ว) ก็ได้ครองรักกัน อีตาดอกฯหัวโล้นก็ได้เครดิตว่ายาของแกกินแล้วเห็นผลชงัดนัก (ทำให้สาวรักแล้วยังทำให้รวยได้ด้วย) และออกจากหมู่บ้านไปแบบไม่โดนรุมยำตรีน

.

อ้อ..จะมีก็แต่ Belcore นั่นแหละ ที่คงอยากตื้บ Dulcamara เหลือเกิน โทษฐานที่ขายยาเสน่ห์ให้ Nemorino แต่ดันทำให้เขาต้องกิน "แห้วกระป๋อง" เสียนี่

.

************************************************************

.

เก็บตก:

ไปดูเรื่องนี้แบบความคาดหวังเป็น 0

ชื่อก็ไม่เคยได้ยิน เนื้อเรื่องเป็นไงก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า Elixir of Love นี่มันน่าจะแปลว่า ยาเสน่ห์

แต่จะบอกว่า......ประทับใจมากมายยยยยยยยยยยยย

.

.

เรื่องคุณภาพเสียงร้อง ไม่ต้องพูดถึง

ระดับโอเปร่า เทพๆกันทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นภาษาอิตาเลียน (อีกแว้ว) ฟังไม่ออกเลยก็ตามที

.

.

.

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ การแสดง

.

แม่เจ้า ไม่คิดเลยว่าจะอินไปได้ขนาดนี้ เรียกว่าหลงรักพระเอกเข้าให้เต็มๆ (ไม่ใช่รักภายนอกฉาบฉวยเพราะหน้าตาดีด้วยนา)

.

พระเอกเรื่องนี้...เฉิ่ม บื้อ ซื่อ เบอะ (บวก "บวม" เข้าไปด้วย) แต่น่ารักอ่ะ ไม่รู้ บอกไม่ถูก

.

ส่วนนางเอกก็นะ ตอนแรกๆหมั่นไซ้ หมั่นไส้ พอโดนพระเอกเชิดใส่ ก็แอบสะใจ แต่ตอนเค้าหันมารักกัน ก็เขินตามไปด้วย

อินอ่ะ อินสุดๆ

.

ดอกเตอร์พี่โล้นก็ เสียงดี เทพมากกกกก ร้องเพลงซะจนเหงื่อหัวล้านแตกพลั่กๆ เสียงก็ยังดีไม่มีตกเลย

อีตอนพี่แกมาเคลมเครดิตว่า... ดูซิ เขารักกันได้เพราะยาของฉันนะเนี่ย ... ก็แหม คับพี่ พี่เจ๋งคับ

.

คุณจ่าเบลคอร์ก็ครบสูตร ผู้ชายหล่อ มาดแมน แฟนเยอะ ขี้เก๊กเต็มขั้น

แต่พอผู้หญิงเค้าแสดงชัดว่าไม่มีใจ ก็ยอมถอยแต่โดยดี มีศักดิ์ศรีใช้ได้

.

สรุปว่า...ให้ 10/10 เลย เดินออกจากโรงยังยิ้มๆ เพ้อๆ เก็บเอามาละเมอๆในฝันอีก

ชอบจริงๆ ละครแบบนี้ ดูแล้วสบายตัวสบายใจ จิตไม่ตก

Disney's The Lion King



January 22, 2008

Second Tier - Row O - Seat 59

Benedum Center, Pittsburgh

**************************


ตามไปสัมผัสกับชีวิตของสิงโตน้อยซิมบ้า
จนกระทั่งเติบใหญ่กลายเป็นเจ้าป่าผู้ปกครอง Pride Rock
เนื้อหาส่วนใหญ่แทบไม่มีอะไรต่างจากเวอร์ชั่นการ์ตูน (2D สุดเลิฟ) เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
อาจมีปรับเปลี่ยนการแสดงให้เหมาะกับความเป็นบรอดเวย์ แต่ก็ไม่ถือว่าแปลกใหม่
แต่ก็มีดีตรงที่ไม่เสี่ยงให้เกิดความรำคาญใจ หากการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ถูกกับรสนิยมคนดู


Lion King เป็นละครบรอดเวย์เรื่องที่สามที่มีโอกาสได้ชม
หลังจากเฉยๆกับ Aida และ สุดยอดประทับใจกับ พี่ Phantom ณ โรงโอเปร่า


...และงานนี้คงต้องเรียกว่า'สมศักดิ์ศรี' ความเป็นดีสนีย์
สมศักดิ์ศรีเจ้าของ 6 รางวัลโทนี่

อาจจะไม่อลังการงานสร้างเท่าที่ควรเพราะเป็นการ On-tour
แถมมาเมืองบ้านน้อก บ้านนอก อย่างPittburgh บ้านเฮา
เวทีก็เล็ก ฉากเฉิก ทีมงานก็อาจจะขนมาได้ไม่ครบทีม
แต่ก็เรียกว่า ไม่ทำให้ผิดหวัง

ด้วยองค์ประกอบที่ครบถ้วน.....

นักแสดงเสียงใสปานนกไนติงเกล บวกกับพลังไมโครโฟนคุณภาพระดับเทพ
การแสดงก็ดูเนียนตา ... เอาคนมาเล่นเป็นสัตว์ แสดงการกระทำและอารมณ์ให้เหมือนอย่างสัตว์ ไม่ใช่เรื่องง่าย ...
แถมด้วยการนำวงออเครสตร้าของ Conductor สุดเท่ห์ (ท่าเต้นของพี่ตอน conduct ได้ใจจริงๆ! ..แอบสารภาพว่าดู พี่เต้นมากกว่าดูนักแสดงอีก -O- )

....ก็ทำให้นั่งดูเพลินเกินค่าตั๋ว (อันแสนจะแพง T-T)


อีกอย่างที่ต้องขอชมจากใจจริงคือ คนออกแบบชุด
คิดได้ไง เก่งอ่ะ ฉลาดมากๆ โดยเฉพาะชุดไฮยีน่า ชอบๆ


คะแนนโดยรวม...ให้ 7/10 สำหรับ Disney's The Lion King

หัก 1 ... จากรสนิยมส่วนตัวที่ไม่ค่อยชอบดูสัตว์มาพลอดรักกัน บรื๋อๆ มันจั๊กกะจี๋ง่ะ
หักอีก 1 ... เพราะอยากให้นักแสดงร้องสดไม่อาศัยไมค์ฯ มากกว่า
เสียงดีเทพอยู่แล้ว เจอไมค์เทพเข้าไปอีก บางทีมันแสบหูอ่า
หักสุดท้ายอีก 1 ... เพราะเนื้อเรื่องไม่มีเซอร์ไพรซ์เลย ตามการ์ตูนเด๊ะๆ
ดูมาเป็นสิบปีจนท่องได้แล้ว เลยออกแนวเบื่อเล็กน้อย

ปล. ชอบ Zazu บนเวทีมากกว่าในการ์ตูน
ส่วน Timon&Pumbaa ทำได้ดีเหมือนในการ์ตูน (แถมมองไกลๆหน้าคุ๊น คุ้น)

ปล.อีกที เมื่อไหร่ จะทำ Booklet ให้มันลงทุนเสียทีหนอ อยากเก็บสะสมง่ะ

..just so annoying....

...
...
ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากบ่น
ไม่มีอะไรมาก ก็คนบางคนในพันทิปที่ไม่เคยคิดแม้แต่จะไปเสวนาด้วย
ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อ่านความเห็นหลายๆอย่างของเค้าแล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ
ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ไม่ชอบคนที่คิดว่าตัวเองเจ๋งสุดๆแล้วเที่ยวไประรานคนอื่น

คนชอบไม่เหมือนตัวก็ประชดว่าเขาดูหนังไม่เป็น พอเขาชอบเหมือนๆกันก็ว่าไหลตามน้ำ
คนทำไม่ถูกใจก็ค่อนขอดว่าเขาปัญญาอ่อน
คนมาเล่าหนัง ก็ไปด่าว่าเขาทุเรศ (ซึ่งก็เป็นตัวที่ดันไปอ่านของเขาเอง เขาไม่ได้เชิญเสียหน่อย)

ทั้งๆที่...ก็น่าจะรู้ว่าตัวมีรสนิยมต่างจากคนอื่น
ทั้งๆที่...ก็น่าจะรู้ว่าโดนคนแอนตี้มากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ทั้งๆที่...บทวิจารณ์ที่ตัวเขียนก็........ (เอ่อ...ไม่วิจารณ์ดีกว่า เดี๋ยวเข้าตัว)

ไม่เข้าใจคนแบบนี้เลยจริงๆ
ว่าจะไม่เขียนถึงแต่ก็อดไม่ได้ ขนาดหลังๆเลือกที่จะไม่เข้าไปอ่านกระทู้ของคนนี้
ก็ยังอุตส่าห์มีความเห็นแบบ 'ขอให้ข้าได้ป่วน' ไปแทรกในกระทู้คนอื่นอีก

เฮ้อ...

สาปส่งค่ะ
ต่อไปจะไม่ดูข้อเขียนของบุคคลผู้นี้อีกแล้ว เห็นแล้วรำคาญใจอย่างแรง

Bye K. ---love---


Update 2/17/08

เหอ จากกระทู้บ่นเรื่องมารยาทในโรงหนัง ดันกลายพันธุ์แล้วขึ้นเป็นกระทู้แนะนำไปซะได้ พร้อมกับสมญานามใหม่ของใครบางคน ... Joblovetood

งานนี้เกรียนโดนขุดคุ้ย โดนแฉ จนแถไม่ออก (หลังจากที่แถจนไม่เหลือสีข้างแล้ว) แถมโดนประจานอีก สงสารก็แต่ลูกเกรียน...โตมาถ้ารู้ว่าพ่ออยากเอายากรอกปากจะรู้สึกไงเนี่ย

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนรู้สึกแบบเดียวกันเพียบเลยแฮะ สามร้อยกว่าความเห็นรุมกัดท่านคนเดียว ยังไม่รู้สำนึก...เฮ้อ

ขออนุญาต quote คุณหมาเนย...."ตำแหน่งเกรียนไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือจับฉลากได้มา"

Tuesday, January 15, 2008

JDrama: Unfair



Life is so unfair!!!


เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากกระทู้ในพันทิพ (อีกแล้ว) ทำให้ต้องไปควานหาเรื่องนี้มาดู (ขอบคุณ Veoh ตามเคย)

ดูจบแล้วก็ต้องถอนหายใจ เฮือกกกกกกกกกก



ชีวิตไม่มีอะไรยุติธรรมจริงๆ

การกระทำของคนหนึ่งที่เจ้าตัวคิดว่าถูกต้องแล้ว อาจกลายเป็นความเดือดร้อนของอีกคน

ทุกคนต่างมีเหตุผล และคิดว่าตัวเองทำดีที่สุด ต่างคนต่างเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับตัวเอง

โดยที่ลืมคิด (หรือตั้งใจไม่คิด) ไปว่า จะเกิดผลต่อผู้อื่นอย่างไร


น่าเศร้า


ละครเรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนสอบสวน ลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน หักมุม หักหลัง แบบเต็มขั้น

แต่ไม่รู้ทำไม...ไม่ค่อยสนุกมันส์สะใจเหมือนตอนดู Liar Game


นางเอกมีบุคลิกที่เท่ห์มาก แต่เข้าสโลแกน "เท่ห์...แต่กินไม่ได้"

คือ เท่ห์ไปเท่านั้น ไม่ได้เก่งกาจ ฉลาดทันคน อะไรสักเท่าไหร่

เอะอะก็ยิงผู้ร้ายเอาไว้ก่อน ซึ่งส่วนตัวคิดว่า เกินกว่าเหตุไปสักหน่อย


และเพราะความเท่ห์ ยิ่งก่อนถามทีหลังของเจ๊นี่แหละ ถึงได้เกิดเรื่องวุ่นๆที่ต้องสังเวยด้วยอีกหลายชีวิตตามมา


เรื่องนี้หักมุมบ่อยมากกกกก คนที่เป็นผู้ร้ายลงท้ายก็กลับกลายเป็นเหยื่อไปซะทุกราย

เรียกว่า หักจนเบื่อ หักจนไม่เหลือความลุ้น เพราะลุ้นไปเดี๋ยวมันก็หักอีก รอดูตอนจบทีเดียวเลยดีกว่าว่าใครเป็นผู้ร้ายตัวจริงกันแน่


แถมตอนจบก็เล่นเอาอึ้ง...ไม่น่าเลย

เพราะมีความรู้สึกว่า ตัวละครตัวนี้น่ารักมาก และน่าจะเป็นคนที่มีความจริงใจที่สุดในบรรดาตัวละครทั้งหมด

สุดท้าย...ก็....

แอบสงสารนางเอกนะ ในชีวิตนี้เจ๊จะไว้ใจใครได้บ้างไหมเนี่ย

เฮ้อ!!!!!! ขอถอนหายใจอีกรอบ

ตอนจบของ Ep11 ก็ทำไม่เคลียร์เท่าไหร่ แต่ไม่ว่ากัน เป็นสไตล์ของ J series เค้าอยู่แล้ว
ที่จะต้องเปิดท้ายทิ้งปริศนาเอาไว้ เผื่อทำภาคต่อ (ในกรณีที่เรตติ้งดี)

โดยส่วนตัวสงสัยคุณลุงตำรวจคนนั้นจัง จะมีเบื้องหลังอะไรรึเปล่านะ
แล้วนางเอกเห็นอะไรนะ ตอนที่ไปนอนอยู่ตรงนั้น
โอย...ดูจบแต่ยังมีคำถาม ????? เต็มไปหมด

แต่เรื่องนี้มีดีที่นักแสดง ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจริงๆ เพราะเล่นได้เทาขมุกขมัว เดาไม่ออกเลยว่าใครเป็นยังไง

โดยเฉพาะ Kimura Tae ที่รับบทเป็น Makimura san.... ทำเอาไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าเธอดี

แม้แต่นักแสดงที่รับเชิญมาแค่ไม่กี่ตอนอย่าง Sezaki san ก็เล่นเอาใจหวิวๆ เพราะทั้งตกหลุมรักและหวาดระแวงเขาไปด้วยในเวลาเดียวกัน

สรุป...ไม่ค่อยประทับใจเนื้อเรื่อง แต่ประทับใจนักแสดงมากถึงมากที่สุด

ปล.ตอนนี้ยังตามล่าหา sp. กับมี movie ที่ยังไม่ได้ดู (หมดกำลังใจซะก่อน)
แอบลุ้นเล็กๆว่า ตัวละครอีกตัวที่ชอบจะไม่กลายเป็นคนร้ายไปนะ


.

.

Sunday, January 13, 2008

Happy New Year 2008

.

I still need to find my way

.

Time is running out...Soon!