Thursday, December 6, 2007

นิยายของดวงตะวัน ตอน ชุดธิโมส์-แผ่นดินแสงดาว

ความเดิมตอนที่แล้ว พรรณนานำไปร่องว่าเหตุใด "ดวงตะวัน" จึงเป็นนักเขียนคนโปรด
วันนี้มาต่อกับนิยายเรื่องอื่นๆของดวงตะวันที่ประทับใจดีกว่า

เท่าที่อ่านมา เรียกว่าประทับใจทุกเรื่อง มากน้อยลดหลั่นกันไปตามความสวยหล่อของพระนาง ฮา...


หลังจาก "แผ่นดินหัวใจ" ชื่อของดวงตะวันก็ขึ้นชาร์จไปอยู่อันดับหนึ่ง เลยชักจะไม่ค่อยมั่นใจว่า อ่านเรื่องไหนก่อนหลัง เอาเป็นว่าจะเขียนถึงเป็นชุดๆไป ก็แล้วกัน


เสน่ห์อีกอย่างที่นักเขียนหลายๆท่านหันมานิยมใช้ผูกเรื่องกันก็คือ การให้ตัวละคร หรือเรื่องราว มีความสัมพันธ์กันจากเรื่องหนึ่งสู่อีกเรื่องหนึ่ง โดยที่แต่ละเรื่องก็มีความสมบูรณ์ในตัวเอง

เรียกว่า อ่านครบก็ได้อรรถรสดี อ่านแค่เรื่องนี้ก็เข้าใจ... อะไรทำนองนั้น




ถ้าพูดถึงดวงตะวัน แล้วไม่พูดถึงนิยายชุดธิโมส์ ก็เหมือนไม่ได้อ่านนิยายของดวงตะวัน !!! (ปานนั้น)


ธิโมส์ มีคำแปลเก๋ไก๋ว่า แผ่นดินแสงดาว
ดินแดนแห่งจินตนาการที่ดวงตะวันสรรสร้างขึ้น แปลกตรงที่ อ่านยังไง้ ก็เห็นเป็น สยามประเทศ ไปเสียทุกที


เหนือ - ริชธ์ เป็นภูเขาสูง
ออก - อลันจา ชายฝั่งทะเล ฝนตกชุกทั้งปี
ใต้ - อลาส เมืองหลวง มีทางออกทะเล
ตก - โมเนตา ที่ราบ ก็ยังติดทะเล


อันนี้เห็นแฟนๆหลายคนยุให้ดวงตะวันนำเอาภาพร่างแผนที่ของธิโมส์ออกมาอวดโฉม แต่ยังไม่เห็นใจอ่อนเสียที ก็ได้แต่ร้องเพลงรอและใช้บริการน้องจิ้นส่วนตัวกันต่อไป



นิยายในชุดนี้ ประกอบไปด้วย ๕ เล่ม (นับถึงเวลาที่กำลังเขียนบลอคนี้)




๑. รุ้งจันทร์ตะวันดาว

สารภาพอย่างไม่อายว่ายังอ่านไม่จบ!
ก็เสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความดราม่า เครียด การเมืองเข้มสุดโต่ง ของมันขจรขจายเข้าหูมานานแสนนาน

ความรักของพระนางเรื่องนี้ก็อึมครึม คลุมเคลือ อ่านจบแล้วคนอ่านยังต้องมาถกกันว่า ตกลงรักกันไหม? รักอีกคนอ๊ะป่าวเนี่ย? อะไรอย่างนี้

จอดอยู่ที่ราวๆบทที่สิบ เลยยังไม่อยากพูดถึงมากกลัวไม่เป็นธรรมกับหนังสือ


แต่คนเขียนบอกว่า เป็นเรื่องที่ชอบสุดในชุดธิโมส์ เลยคิดว่า คงจะควรค่าแหละน่า
รอให้โตทางความคิดอ่านกว่านี้อีกสักนิด อาจจะเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น แล้วจะกลับไปอ่าน...นะจ๊ะ







๒. รักที่ริมทะเลเมฆ

อ่านเล่มนี้เป็นเรื่องแรกของชุดธิโมส์ ได้รับอานิสสงค์จากน้องสาวสุดสวยคนเดิมที่ส่งแผ่นดินหัวใจมาให้นั่นแล


ยกให้เป็น...รักที่ริมทะเลเมฆสีจมปู... 555


เนื่องด้วย พระเอกช่างเท่ห์ แอบเจ้าเล่ห์ หล่อเหลา ร่ำรวย บุคลิกดี โอย ชายในฝัน (อีกแล้ว)



คุณเคช พระเอกเป็นคนเคเชรี ชนเผ่าลึกลับบนภูเขาสูง
คนกลุ่มนี้มีวิธีการวัดความจริงใจของคนได้น่าสนใจมากกกก


เขาใช้ "การกอด" เป็นดัชนีค่ะท่าน
เขาว่า เวลาที่คนกอดกัน คือเวลาที่หัวใจอยู่ใกล้กันมากที่สุด เพราะฉะนั้นใจใครเต้นเร็วเต้นช้า เต้นโครมๆ เต้นแจ๊ส เต้นแร๊ปโย่ว ยังไง จริงใจแค่ไหน วัดกันได้จากตอนนี้แหละ


เออ...แนวคิดได้ใจวุ้ย
ได้ใจอีตาพระเอก ตอนขอ 'ทาม' วัดใจนางเอกอ่ะนะ ^___^


สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของนิยายในชุดธิโมส์ไม่กว่ากี่เรื่องๆ คือ ผู้หญิงมักเป็นใหญ่ (อยากไปอยู่ประเทศนี้จริงๆ)
และผู้ชายก็ต้องยอมศิโรราบแก่ผู้หญิง ไม่เว้นแม้แต่เทพเจ้าในตำนาน
เพราะอย่างนั้น เราเลยได้เห็น ผู้นำประเทศ ผู้นำชุมชนท้องถิ่นของธิโมส์ ที่เป็นเพศหญิงซะส่วนมาก



นางเอกรุ้งจันทร์ตะวันดาว เป็น ปันตา - นายกรัฐมนตรี
นางเอกรักที่ริมทะเลเมฆ ก็ไม่น้อยหน้า เป็น วาตี - ผู้นำชุมชนประมงริมทะเล แห่งรันนาวาตี


รักที่ริมทะเลเมฆดำเนินเรื่องว่าด้วยความรักของเคช-กิรันนาเป็นแกน อยู่บนฉากหลังที่เรียกว่าเป็น ลายเซ็นต์ในยุคแรกๆของดวงตะวัน นั่นคือ ประกอบไปด้วย ผลประโยชน์ ความขัดแย้ง ความหลัง ความแค้นและการทรยศของคนใกล้ตัว



เรื่องนี้อ่านแล้วหวาน หวาม วิบวับ วิ๊งๆ
ก็คนเขียนเล่นประกาศว่า เขียนเรื่องนี้เพราะสนองรีเควสของเพื่อนที่ต้องการนิยายที่พระนางนัวเนียกันเยอะๆ นี่นา O_o


แถมคุณเคชขา ยังมีวีรกรรมขับฮอฯส่องไฟให้รถสาวอันลือลั่น เรียกว่า กวาดหัวใจสาวน้อยสาวใหญ่ไปได้ตรึม



แต่นิยายเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นสีชมพูอย่างเดียว ยังมีสีแดง สีดำ สีช้ำเลือดช้ำหนองเข้ามาแซมเป็นกระสัย ไม่ให้เรื่องเบาหวิวโหวงเกินไปนัก

ปันตาศาวีรันดาก็มาโผล่ๆให้เห็นความฉลาดกันแว๊บๆ แล้วยังมีการทิ้งปมตัวละครไว้ให้เรื่องต่อไปด้วย



อ่านแล้วชอบ มีแค่พี่เคชคนเดียวก็เกินคุ้มแล้วเรื่องนี้ ^o^







๓. ดอกไม้และสายลม


ย้ายฉากมาอยู่ที่ราบลุ่มตอนกลางของประเทศ คาเรนา แหล่งเพาะดอกไม้และหัวใจของการเกษตรแห่งแผ่นดินแสงดาว - อ่านแล้วชวนให้คิดถึงแถบลพบุรีกับทุ่งตานทะวันเสียจริง


เรื่องราวสืบเนื่องมาจากรักที่ริมทะเลเมฆเปิดเอาไว้ เมื่อบัณทรี ตัวร้ายจากเรื่องนั้น ต้องการตามล่าหัว ซอร่า ลูกครึ่งเคเชรีซึ่งทำงานให้คุณเคช และบัณทรีเชื่อว่า นอกจากจะทำให้กลุ่มบัณทรีแทบล่มสลายแล้ว ยังเป็นต้นเหตุให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน (ที่เลวไม่แพ้พ่อ) ต้องตายอย่างอนาถอีกด้วย


นางแบบสาวหัวสูงจึงเดินทางมาหลบวิถีกระสุน ในใจกลางสวนธีลาแสนสวยของ เรน พ่อหนุ่มผมยาวแห่งคาเรนา


จะว่าไปพลอตแบบนี้มีเห็นบ่อยมาก ประเภทคุณหนูไฮโซ กับ นายกระจอกชาวไร่ชาวสวน (ที่เนื้อแท้แล้วเป็นเจ้าของกิจการนะ) แต่พอใส่ความเป็นธิโมส์ ความเป็นคาเรนาเข้าไป ทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


และก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ตอนอ่านจินตนาการภาพดอกธีลาเป็นดอกพุทธรักษาทุ้กที

เรื่องนี้ก็ดำเนินไปสไตล์ดวงตะวัน (ยุคแรก) คือ อยู่บนเส้นทางของผลประโยชน์ ความขัดแย้ง ความรัก ความหลัง ความแค้น และคนใกล้ตัวที่ทรยศ

อ่านแล้วพอจะเดาทางเรื่องได้ เพราะมาแนวๆเดียวกับรักที่ริมทะเลเมฆ แต่รายละเอียดที่ต่าง บุคลิกตัวละครที่ต่าง ฉากหลังที่ต่าง ก็ทำให้ดอกไม้และสายลมมีลายเส้นเป็นของตัวเอง

ในที่สุดดอกไม้ก็ช่วยให้สายลมปั่นป่วนค้นพบทิศทางของตัวเอง ความรักก็เริ่มเบ่งบาน

แต่อย่าคิดว่าซอร่าจะเป็นสาวติ๋มอย่างนางเอกเรื่องอื่น ฉากอันลือลั่นของเรื่องนี้เร้าใจกว่าฉากขี่ฮอฯส่องไฟของพี่เคชหลายขุม เพราะคุณซอร่า เธอเล่นขอหนุ่มเรน...ลงอ่างด้วย...ซะงั้น

แต่ก็น่ารักดี ให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเขิน ผู้หญิงก็กล้าแบบเหนียมหน่อยๆ (กลัวโดนปฏิเสธ) ไม่ได้หื่นจนเลือดกำเดาพุ่ง

บอกแล้วแผ่นดินนี้ ผู้หญิงคุม 5555




๔. ปราสาททรายในสายฝน

ไปเที่ยวเมืองหลวงกันมาแล้วใน รุ้งจันทร์ตะวันดาว
แล้วก็ออกชายฝั่งตะวันตกและขึ้นเทือกเขาเร้นลับแห่งเคเชรีใน รักที่ริมทะเลเมฆ
ย้ายเข้าไปอยู่สวนดอกไม้ภาคกลางใน ดอกไม้และสายลม

คราวนี้ก็ถึงเวลาบุกทะเลตะวันออก...เมืองคนดุ โอจา

เพราะคนเขียนเกริ่นเอาไว้ว่า เมืองนี้เต็มไปด้วย เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพล ระดับบิ๊กๆ 'บี'ๆ คนอ่านเลยเตรียมใจไว้รอรับพระเอกแบบโหด เถื่อน เนื้อเรื่องนี่เดาไว้ว่าน่าจะออกแนวตบจูบ จุ๊บๆ แน่ๆ

เอาเข้าจริง คนอ่านหงายหลัง เจอเจ้าพ่อคนดุ แต่สิ้นลายกลายเป็นไอ้หนุ่มหน่อมแน้มทันทีเมื่อเจอสาว (ดุกว่า)

ไม่รู้คนอื่นว่ายังไง แต่ส่วนตัวอ่านแล้ว ท่านบีแบลค ไม่ดุอ่ะ ไม่ดุเลยซักกะนิด โดยเฉพาะเวลาอยู่กับตรีดามาส

เรื่องนี้มีปมต่อมาจากดอกไม้และสายลมก็ตรงที่ เมืองคนดุนี้เป็นบ้านเกิดและฐานอำนาจของบีบัณทรี ตัวร้ายจากสองเรื่องก่อนนั่นแล
เมื่อบัณทรีวายปราณไป กลุ่มอิทธิพลอื่นๆของโอจาก็เริ่มเคลื่อนไหวตื่นตัว มีการโจมตีกันระหว่างกลุ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างก็กล่าวโทษกันว่าเป็นผู้เริ่ม และไม่มีใครยอมลดราวาศอก

ประมาณ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน อย่างนั้นเลย

เรื่องราววุ่นวายในโอจาเกิดขึ้น พร้อมๆกับการมาถึงของคณะนักสำรวจทางโบราณคดี ซึ่งมีตรีดามาสเป็นหัวหน้าคณะ...

ก็บอกแล้ว ประเทศนี้ผู้หญิงคุม!

ตรีดามาสและคณะมาเพื่อค้นหา กีระดารา - ปราสาททราย ในเขตพื้นที่บ้านของ บีแบลค
แต่สิ่งที่เธอค้นพบ กลับเป็น ระดา - ความรัก ในเขตพื้นที่หัวใจของ บีแบลค แทน

แล้วก็เหมือนเดิม เรื่องนี้ยังคงมีลายเส้นของดวงตะวันยุคเก่า ผลประโยชน์ ความขัดแย้ง ความหลัง ความแค้น อีกแล้ว คน(ไม่)ใกล้(ไม่ไกล)ตัวทรยศ

บุคลิกตัวร้ายค่อนข้างเหมือนเดิม เลยเดาได้ตั้งแต่ยังแสร้งทำเป็นดีนั่นแหละ

แต่ชอบเรื่องนี้มากกกกกก
ตรงที่มีเรื่องเกี่ยวกับโบราณคดีเข้ามาเอี่ยว (เป็นความฝันวัยเยาว์ ที่ถูกกระชากปลุกขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงปากท้องในอนาคต)
แล้วดวงตะวันก็เอาความรู้จริงๆ ที่มีแหล่งอ้างอิงได้ ไม่ได้นั่งเทียนเอาเอง มาแทรกสอดไว้เป็นระยะ เพลินดี และทำให้ลุ้นหาคำตอบตามไปด้วย

แต่เจ็บใจมากกกกกกกกกกกก เช่นกัน
ปกตินิยายของดวงตะวันถึงจะเกี่ยวเนื่องกัน แต่ก็จบในตอน ไม่ได้ปล่อยระเบิดไว้ให้รอตามกันแบบนี้
(ถึงคนเขียนจะบอกว่า เคลียร์ประเด็นหลักในเรื่องนี้จบสมบูรณ์แล้วก็เถอะ ฮึ่ม)

รอซิคะงานนี้ ร้องเพลงรอไป เพราะเล่มต่อยังเป็นวุ้นอยู่ในสมองคนเขียนอยู่เลยอ้ะ

สิบเอ็ดเดือนที่แทบกระอักด้วยความอยากรู้

ปราสาททรายในสายฝนได้อ่านเมื่อ ตุลา'๔๙
ผีเสื้อลายตะวันตีพิมพ์ มีนา'๕๐
กว่าผีเสื้อจะกระดึ๊บๆ เอ๊ย กระพือปีกมาถึง ตุลา'๕๐

ข้าเจ้าลงแดงตาย





๕. ผีเสื้อลายตะวัน

เล่มแรกในชุดธิโมส์ ที่ย้ายบ้านมาอยู่กับสำนักพิมพ์ของตัวเอง... สำนักพิมพ์ดวงตะวัน

ก่อนหน้าที่เล่มนี้จะออก ก็มีการคาดเดากันไปต่างๆนานาเกี่ยวกับปริศนาที่คนเขียนทิ้งไว้ในเล่มก่อน
พอได้อ่านก็ต้องร้องว่า "คุณหลอกดาว" เพราะเงื่อนงำที่ทิ้งไว้ ชวนให้คิดไปอีกทางหนึ่งเลย

แต่ก็เห็นหลายคนเดาเรื่องถูก สงกะสัยเฮากึ๊ดบ่ทันเองแหละเน่อ

เรื่องนี้จะเห็นได้ว่าเริ่มเข้าสู่ความเป็นดวงตะวันยุคใหม่ ทิ้งลายเส้นเก่าๆออกไปมากเหมือนกัน (ถ้าเป็นสไตล์เดิมอาจจะได้เห็น ธีร์หรือเรเชน กลายเป็นคนทรยศ อะไรประมาณนั้น) ซึ่งเป็นการดี อ่านซ้ำๆเดิมจนเดาทางได้มามากแล้ว เปลี่ยนบ้างจะได้ไม่เบื่อ

แต่เนื่องจากความมั่นใจว่ายังไงเรื่องนี้ก็ไม่ Y ตามกระแสแน่
บวกกับความอยากรู้อยากเห็นเลยแอบเปิดตอนจบก่อน
เลยทำให้อ่านแบบเรื่อยๆ ไม่ลุ้นแล้ว แต่ก็พยายามหาเงื่อนงำที่คนเขียนแทรกซ่อนคำเฉลยไว้ในบทต่างๆ

งานนี้...ตกหลุมรักนางเอก เท่ห์โฮกกกกกกก แบบไม่มีเฮก
เท่ห์จนพระเอกบางครั้งก็หม่นแสงไปเลยเหมือนกัน 55

ความจริงพลอตหญิงปลอมเป็นชายมีเกลื่อน
แต่ที่ปลอมแล้วคนทั้งโลกไม่รู้แบบนี้หาได้ไม่บ่อย
(เพราะส่วนใหญ่คนทั้งโลกจะรู้ยกเว้นพระเอกคนเดียว ที่ฉลาดน้อย ;P)

แถมพอมาอยู่ในเรื่องนี้ ที่มาที่ไปมันแน่นมาก เหตุผลของตัวละคร ความที่ถูกหล่อหลอมปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ตะขิดตะขวงใจเลยที่จะเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องปลอมตัวและทำไมถึงปลอมได้แนบเนียนขนาดนั้น

ตะหงิดๆอยู่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ เพราะเท่าที่คิด ถ้าจะปลอมให้เหมือนๆ นางเอกต้องออกแนว ไข่ดาว หรือถ้าจะให้ดีเป็นไม้กระดานไปเลย แต่เรื่องนี้นางเอกสุดแสนจะงามอวบอึ๋ม ปลอมเนียนได้นี่คงต้องมีเทคนิคดีน่าดูชม

ชอบพลอตหลักของเรื่องนี้ตรงที่เน้นความรักชาติ ทำเพื่อชาติบ้านเมืองมากกว่าประโยชน์ส่วนตน อ่านแล้วอยากให้สยามประเทศมีคนแบบ กาย กานาเมซ เยอะๆจริง แต่อย่างว่าเถอะ เอาเข้าจริงโดยส่วนตัวเองก็ยังรักชาติแบบครึ่งๆกลางๆเลย ของแบบนี้คงต้องให้ลองเจอ ลองสัมผัสด้วยตัวเองแบบชาวธิโมส์ในเรื่องถึงจะคิดกันได้กระมัง

อ้อ...โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ ผู้หญิงคุม อีกแล้วครับท่าน

No comments: